ประเด็นสำคัญ
- ราคา XRP ร่วง 1% วันนี้ ทำให้การปรับลงตลอด 7 วันขยายเป็น 11.2%
- กระแสผิดหวัง ETF ยังคงต่อเนื่อง แม้มียอดไหลเข้ารวมกว่า 270 ล้านดอลลาร์
- สัดส่วนผู้ถือที่ยังมีกำไรเหลือเพียง 58.5% เพิ่มความเสี่ยงแรงขาย

กระแสเงินไหลเข้า ETF ยังดี แต่ไม่ช่วยดันราคา XRP
กระแสเงินไหลเข้า ETF แบบสปอตยังคงมีต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถดันราคา XRP ได้ โดยกองทุน XRPC ETF ของ Canary มียอดไหลเข้า 25.4 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ส่วนกองทุนใหม่อย่าง EZRP ของ Franklin Templeton ก็แทบไม่ทำให้ตลาดขยับ แม้สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจะรวมกว่า 270 ล้านดอลลาร์ แต่ความสนใจจากสถาบันยังไม่มากพอจะหยุดแนวโน้มขาลงหลายสัปดาห์ของ XRP
การร่วง 40% จากจุดสูงสุดตลอดกาลในเดือนกรกฎาคมที่ 3.65 ดอลลาร์ สะท้อนโมเมนต์ขายเมื่อมีข่าวดีตามสูตรเดิม ซึ่งบ่งชี้ว่าการอนุมัติ ETF ถูกสะท้อนไปในราคาแล้ว การจับตายอดไหลเข้าของ XRPC จึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าจะเป็นแรงพยุงราคาได้หรือไม่
วิกฤตความสามารถทำกำไรของผู้ถือ
ปัจจุบันมีเพียง 58.5% ของผู้ถือ XRP ที่ยังอยู่ในกำไร ซึ่งเป็นระดับอ่อนแอที่สุดตั้งแต่พฤศจิกายน 2024 ประมาณ 26.5 พันล้าน XRP ที่ซื้อบนจุดสูงท้องถิ่นยังติดดอยอยู่ ส่งผลให้เกิดแรงขายล Panic เพิ่มขึ้นเมื่อราคาย่อตัว
Glassnode ชี้ว่า ปริมาณ XRP ไหลเข้าสู่กระดานเทรดพุ่งขึ้นสู่ 1.4 พันล้าน XRP และราคาของ XRP อาจพุ่งทะยานภายใน 60 วันนี้ บ่งบอกถึงการกระจายขายมากกว่าสะสม ประวัติการณ์ชี้ว่า เมื่อปริมาณเหรียญที่ติดดอยสูงขึ้น มักสัมพันธ์กับการปรับลงเร็วขึ้น หากไม่มีปัจจัยหนุนใหม่เข้ามา
ภาวะขาลงทางเทคนิคยังเด่นชัด
XRP หลุดแนวรับสำคัญที่ 2.20 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci 78.6% โดยราคาตอนนี้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทุกเส้น แนวโน้มใหญ่บ่งชี้แรงกดดันขาลงต่อเนื่อง

อินดิเคเตอร์โมเมนต์ยังซ้ำเติมโครงสร้างขาลง RSI ที่ 41.48 ยังไม่แตะโซน Oversold ขณะที่ MACD ยังอยู่ในภาวะหมี
ตลาดเริ่มจับตาแนว 2.10 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำของเดือนกรกฎาคม 2025 หากปิดต่ำกว่านี้ อาจเปิดทางสู่ 2.00 ดอลลาร์ ระดับที่เคยถูกปกป้องตอนราคาดีดตัวช่วงข่าวปิดดีลกับ SEC และอาจกระตุ้นแรงขายบังคับให้รุนแรงขึ้น
มุมมองต่อ XRP: สิ่งที่ต้องติดตาม
XRP ยังคงถูกกดดันจากโมเมนต์ ETF ที่แผ่วลง ความสามารถทำกำไรของผู้ถือที่อ่อนแอลง และโครงสร้างเทคนิคที่เสียรูป แม้ภาวะ Oversold อาจสร้างรีบาวด์ระยะสั้นได้ แต่แนวโน้มหลักยังเป็นขาลงจนกว่ากระแสเงินจาก ETF จะเริ่มนิ่ง หรือ Ripple ส่งปัจจัยขับเคลื่อนใหม่เข้ามา จุดสำคัญที่ต้องจับตาคือ 2.10 ดอลลาร์ หากหลุด อาจเกิดการเร่งขายต่อเนื่องไปสู่โซน 2.00 ดอลลาร์ได้
Bitcoin Hyper เร่งสปีดให้โลกบิทคอยน์ ก้าวสู่ยุคเลเยอร์ 2 แบบเต็มตัว
Bitcoin Hyper เดินหน้าในฐานะเลเยอร์ 2 ที่เกิดมาเพื่อเสริมพลังให้บิทคอยน์โดยเฉพาะ จุดเด่นคือความเร็วและต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่าเครือข่ายหลักอย่างชัดเจน ทำให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับ dApps ระบบชำระเงิน และกิจกรรมทางการเงินยุคใหม่ที่ต้องการความลื่นไหล ในช่วงที่บิทคอยน์เผชิญความหนาแน่นบนเชนหลัก โซลูชันนี้จึงเป็นมุมมองบวกที่สอดรับกับบรรยากาศข่าวตลาดคริปโตซึ่งกำลังแสวงหาแรงขับเคลื่อนใหม่

อีกด้านหนึ่ง Bitcoin Hyper พยายามสร้างความเชื่อมั่นด้วยเทคโนโลยีเชิงลึกอย่างระบบพิสูจน์แบบศูนย์ความรู้และกลไกตรวจสอบสถานะที่ผูกกับเลเยอร์ 1 ของบิทคอยน์ ทำให้ความเร็วที่เพิ่มขึ้นไม่ได้แลกด้วยความปลอดภัย สำหรับนักลงทุนที่มองหาโปรเจกต์คุณภาพในจังหวะที่สินทรัพย์ใหญ่อย่าง XRP กำลังถูกกดดัน Bitcoin Hyper จึงกลายเป็นตัวเลือกเชิงบวกที่โดดเด่น ทั้งในด้านศักยภาพการเติบโตและความพร้อมในการนำไปใช้งานจริง
